วันพุธที่ 6 มีนาคม พ.ศ. 2556
Ball Joint Doll หรือ Dollfie
สำหรับหลายท่านที่เพียงแค่ขึ้นชื่อภาษาอังกฤษก็งงแล้ว คำว่า Ball Joint Doll (BJD)
หรือ บอลล์ จอยท์ ดอลล์ มีความหมายว่าตุ๊กตาที่ข้อต่อเป็นระบบ
"บอลล์กับเบ้า" ค่ะ แต่ดั้งเดิมนั้น BJD ผลิตขึ้นในญี่ปุ่นและเกาหลี
แต่ปัจจุบัน จีนและบางประเทศในฝั่งตะวันตกก็ชื่นชมจนนำไปผลิตกันบ้างแล้วค่ะ
ตุ๊กตาเหล่านี้มีลักษณะเด่นเฉพาะตัวมากมายซึ่งจะกล่าวถึงต่อไป เนื่องจากคำว่า Ball Joint Doll
หรือ BJD เรียกยาก ดังนั้นจึงขออนุญาตใช้คำว่า BJD สำหรับเป็น
technical term ในวงการเพื่อแยกจากตุ๊กตาประเภทอื่น เช่น DD บลายธ์ บาร์บี้
ฯลฯ แต่ถ้าเป็นภาษาชาวบ้านทั่วไป เพื่อความง่ายต่อการเรียนจึงขออนุญาตเรียก "ดอลฟี่" นะคะ
ตุ๊กตาดอลฟี่ผลิตขึ้นจาก "เรซิน" ซึ่งเรซินก็ใช่ว่าหมือนกันทั่วโลกนะคะ เรซินก็มีเกรดของมันเหมือนกัน เป็นที่ยอมรับกันว่าญี่ปุ่นและเกาหลีใช้เรซินชั้นดีในการผลิตดอลฟี่ ผิวของดอลฟี่ จึงเรียบเนียนและสวยเหมือนผิวคนจริงๆยามถ่ายภาพ(แต่ตอนจับจะแข็งนะคะ)นอกจากเรซินแล้ว "สีของเรซิน" ก็มีความสำคัญเช่นกันค่ะ ดอลฟี่แต่ละบริษัทจะมีสีผิวเป็นเอกลักษณ์ของตนเอง เช่น Luts จะขาวเหลืองเหมือนผิวคนเอเชียจริงๆ ส่วน DoD จะขาวชมพู กระทั่งในบริษัทเดียวกันแต่ต่างช่วงเวลาก็อาจได้สีเรซินต่างกันได้ อันไหนสวยไม่สวยก็ขึ้นกับความชอบของแต่ละคนค่ะ
ตุ๊กตาดอลฟี่ผลิตขึ้นจาก "เรซิน" ซึ่งเรซินก็ใช่ว่าหมือนกันทั่วโลกนะคะ เรซินก็มีเกรดของมันเหมือนกัน เป็นที่ยอมรับกันว่าญี่ปุ่นและเกาหลีใช้เรซินชั้นดีในการผลิตดอลฟี่ ผิวของดอลฟี่ จึงเรียบเนียนและสวยเหมือนผิวคนจริงๆยามถ่ายภาพ(แต่ตอนจับจะแข็งนะคะ)นอกจากเรซินแล้ว "สีของเรซิน" ก็มีความสำคัญเช่นกันค่ะ ดอลฟี่แต่ละบริษัทจะมีสีผิวเป็นเอกลักษณ์ของตนเอง เช่น Luts จะขาวเหลืองเหมือนผิวคนเอเชียจริงๆ ส่วน DoD จะขาวชมพู กระทั่งในบริษัทเดียวกันแต่ต่างช่วงเวลาก็อาจได้สีเรซินต่างกันได้ อันไหนสวยไม่สวยก็ขึ้นกับความชอบของแต่ละคนค่ะ
Ball joint คืออะไร
Ball joint คือ
"ข้อต่อแบบบอลล์" ค่ะ Ball joint ประกอบด้วย 2 ส่วนหลักคือ "บอลล์" กับ
"เบ้า" ซึ่งเมื่อใส่ตัวบอลล์เข้าไปในเบ้าแล้ว
ข้อต่อจะสามารถพับงอได้หลากหลาย ตุ๊กตาส่วนใหญ่จะมีข้อต่อแบบ "บานพับ"(นึกถึงบาร์บี้) ซึ่งหมุนรอบแกนได้เพียงทิศทางเดียว
แต่ข้อต่อแบบบอลล์จะสามารถเคลื่อนไหวได้ 2 มิติซึ่งหลากหลายกว่า
ข้อต่อเหล่านี้สร้างขึ้นเพื่อประโยชน์ในการโพสท่านั่นเองค่ะ
จำนวนข้อต่อของตุ๊กตา
ในแต่ละรุ่นก็จะแตกต่างกันออกไปแต่หลักๆ แล้วก็คือ
1.ศีรษะต่อลำคอ
2.ไหล่ต่อแขน
3.ข้อศอก
4.ข้อมือ
5.ข้อต่อลำตัว(บางรุ่นไม่มี แต่บางรุ่นอาจจะมี 1 หรือ 2 ข้อต่อแล้วแต่
6.สะโพกต่อต้นขา(ช่วยในการนั่ง)
7.ข้อต่อหมุนต้นขา(ช่วยในการนั่งไขว่ห้างหรือขัดสมาธิ)
8.หัวเข่า
9.ข้อเท้าและอาจจะมีข้อต่อที่เท้าเพื่อใช้ในการเขย่ง
จำนวนข้อต่อของตุ๊กตา
ในแต่ละรุ่นก็จะแตกต่างกันออกไปแต่หลักๆ แล้วก็คือ
1.ศีรษะต่อลำคอ
2.ไหล่ต่อแขน
3.ข้อศอก
4.ข้อมือ
5.ข้อต่อลำตัว(บางรุ่นไม่มี แต่บางรุ่นอาจจะมี 1 หรือ 2 ข้อต่อแล้วแต่
6.สะโพกต่อต้นขา(ช่วยในการนั่ง)
7.ข้อต่อหมุนต้นขา(ช่วยในการนั่งไขว่ห้างหรือขัดสมาธิ)
8.หัวเข่า
9.ข้อเท้าและอาจจะมีข้อต่อที่เท้าเพื่อใช้ในการเขย่ง
ด้านในเรซินของดอลล์ฟี่จะกลวงและมีเอ็นยืด(คล้ายๆยาง)หรือ Elastic String ที่แข็งแรงมากร้อยผ่าน เส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 2-3 มม. ซึ่งเจ้าเอ็นนี้แหละที่จะทำให้น้องๆโพสท่าได้นานขึ้น และแน่นอนว่าเส้นเอ็นตึงหรือหย่อนไปก็มีผลต่อการโพสท่าเช่นกันนะคะ
เมื่อเราซื้อตุ๊กตาตัวหนึ่งเราจะได้อะไรบ้าง
สิ่งที่ได้รับในการซื้อแต่ละครั้งนั้นแตกต่างไปตามแต่ละบริษัทจะจัดให้ค่ะ แต่โดยพื้นฐานสำหรับ standard เราจะได้รับ ศีรษะและ cover (พลาสติกสำหรับปิดใบหน้า), ดวงตา, ร่างกาย, วิกผม แต่บางแห่งอาจไม่ให้ cover วิก หรือตาก็ได้ค่ะสิ่งที่ไม่ได้แถมมาให้บ้าง
อันที่ลืมประจำคือ face-up (หรือ make-up คือแต่งหน้า) ค่ะ ตุ๊กตามาตรฐานจะมาหน้าโล้นๆ เลยนะคะ หน้าแบบเดียวสามารภแต่งได้หลายแบบเลยค่ะ เสื้อผ้ามักเป็น optional ค่ะ บางที่ให้เลือกว่าจะเอาหรือไม่เอา แต่บางที่ก็ไม่มีให้เลย ต้องอ่านรายละเอียดดีๆ ก่อนรองเท้าส่วนใหญ่จะไม่แถมเลยยกเว้น Full set ซึ่งจะสำเร็จรูปให้ทุกอย่างแล้ว
ตุ๊กตาที่เราซื้อมีผิวสีอะไร
บริษัทผู้ผลิตส่วนใหญ่ทำสีผิวออกมาแตกต่างกัน 1-3 โทนให้เราเลือกซื้อตามความชอบนะคะ ชื่ออาจจะแตกต่างกันไปตามผู้ผลิต แต่โดยสรุปก็ไม่พ้นโทนเหล่านี้ค่ะ
1.ผิวปกติ (normal skin)
จะเป็นสีผิวที่ใกล้เคียงกับมนุษย์ที่สุด มักเป็นสีโทนเหลืองหรืออมชมพูค่ะ ถือเป็นสีมาตรฐานที่สุดและแต่งง่ายที่สุดเลยค่ะ ให้ดู normal skin ของศีรษะกับตัวจะเห็นว่าต่างกันนิดหน่อยใช่ไหมคะ ศีรษะคือ Leeke Kyou ซึ่งออกโทนเหลือง ส่วนตัวคือ DoD DOI body ซึ่งออกโทนชมพูค่ะ
2.ผิวขาว (white skin, snow skin, vampire skin)
เป็นสีขาวแบบไม่มีสีเลือด ขาวจัวะเหมือนแวมไพร์นะคะ ผิวสีนี้นำมาแต่งออกแนว gothic ทาตาดำๆ ใส่ชุดฟ่องๆ ล่ะงามนักเลยค่ะ
3.ผิวแทน (tanned skin)
คือผิวเกรียมแดด เป็นสีน้ำผึ้งหรือผิวสองสีเท่ๆ นะคะ ผิวสีนี้ทางอเมริกาเหนือและยุโรปโปรดนักแล เพราะถือว่าแมนและดูสุขภาพดีค่ะ
Make up (เมคอัพ) หรือ Face up (เฟซอัพ)
หมายถึงการแต่งหน้าให้ตุ๊กตาค่ะ ผู้ผลิตส่วนใหญ่ไม่ได้รวมการทำเมคอัพเข้าไว้กับราคาของตุ๊กตาด้วย
เราต้องสั่งแยกต่างหากค่ะ ราคามีตั้งแต่ 35-60
ดอลล่าร์ตามขนาดตุ๊กตาและตามแต่ละบริษัท นอกจากสีที่ระบายหน้าแล้ว
ยังอาจมีขนตาประดับให้ด้วยค่ะ
และเราสามารถสั่งรายละเอียดบางอย่างเพิ่มเติมได้ เช่น ให้ทาอายแชโดว์สีอะไร
ทางขอบตาสีอะไร ลงคิ้วสีอะไร
และสามารถเลือกโทนสีของใบหน้าให้กลมกลืนกับชุด, วิก,
และดวงตาที่เราต้องการได้ด้วยค่ะ บางแห่งมีการแต่งเพิ่มเติมนอกจากใบหน้า เช่น body blushing
หรือลงสีและแสงเงาให้ลำตัว, สักรอยสัก, ทำรอยแผลเป็น ไปจนถึงการ modified
ขั้นสุดยอดที่ต้องตอกเหลาเกลากลึงเรซิน เพื่อให้ตากว้างขึ้นหรือแคบลง
หรืออาจปรับแต่งเรซินเพื่อให้ศีรษะยี่ห้อหนึ่งต่อกับลำตัวอีกยี่ห้อหนึ่งได้ค่ะ
โครงสร้างของตุ๊กตา
ดอลฟี่โพสท่าด้วยระบบข้อต่อแบบบอลกับเบ้าภายในกลวงโดยมีอีลาสติกเส้นโตยึดอยู่
ศีรษะและส่วนประกอบต่างๆ บนใบหน้า (Head and optional parts)
ศีรษะของตุ๊กตาโดยปกติจะติดมากับชุดมาตรฐานค่ะ แต่บางรุ่นจะมีขายแยกด้วย
ศีรษะที่ได้มาจะหัวโล้นๆ นะคะ ผมสามารถเปลี่ยนได้จากวิกที่เราเลือกค่ะ
ศีรษะของดอลฟี่เปิดได้ 2 แบบค่ะ ส่วนใหญ่ เปิดจากด้านบน
(เหมือนเปิดกระโหลก) เพื่อให้เอาลูกตาแปะลงไปและทับด้วย putty clay
ซึ่งคล้ายๆ ดินน้ำมันที่สีจะไม่ตกไปใส่เรซินน่ะค่ะ
เมื่อก่อนมีการทำบริเวณเปิดได้เป็นเขี้ยวเพื่อให้สบกันพอดี
ต่อมาก็ยึดด้วยหนังยากกับ S-hook หรือตะขอที่โผล่คอออกมาน่ะค่ะ
แต่ล่าสุดยึดด้วยแม่เหล็กอย่างที่เห็นนะคะ
ดวงตา (Eyes)
ลูกตาของดอลฟี่ไม่ได้ติดกับศีรษะนะคะ
ดังนั้นเราสามารถเปลี่ยนลูกตาต่างสีและวัสดุได้อย่างเมามันเลยล่ะค่ะ
บางแบบไม่สามารถเปลี่ยนลูกตาได้ เช่น บางรุ่นของ Volks
เพราะเขาจะเอากาวหยอดให้ลูกตาติดกับศีรษะเลยค่ะ ลูกตามีหลายขนาดและทำจากหลายวัสดุค่ะ ขนาดมีตั้งแต่ 10mm จนถึง 21mm เลือกใช้แล้วแต่รุ่นของตุ๊กตา วัสดุมีตั้งแต่ อครีลิค (acrelic)
หรือพลาสติกธรรมดานี่ล่ะค่ะ พื้นๆ ที่สุด ถ่ายภาพแล้วไม่มีประกายตาวิ้งๆ
แต่ก็จัดว่าสวยพอประมาณ ราคาย่อมเยาคู่ละไม่ถึง $5 จนถึง $20 กว่าค่ะ
น้ำหนักเบา
นี่คือตาอครีลิคจาก Luts ค่ะ ถ้าเลือกของดีหน่อยก็สวยใช้ได้นะคะ
ตุ๊กตาส่วนใหญ่ที่แถมตามาจะแถม อครีลิกนี่ล่ะค่ะ(เพราะทั้งถูกและสวย)
"soom eye"กลายเป็นชื่อสามัญของ Silicone eyes
ไปเลยค่ะ เพราะ Soom คือบริษัทหลักๆ ที่ผลิตตาจากซิลิโคนโดยมีเอกลักษณ์คือ
Soom ring ซึ่งเกิดจากขั้นตอนการทั้งให้แก้วตาใสๆ
ข้างหน้ามีความโค้งนูนเป็นโดมคู่
ส่งผลให้สะท้อนแสงออกมาเหมือนมีวงหยดน้ำใสๆ กลิ้งอยู่ในตาค่ะ ราคาก็ประมาณ $26 นะคะ
ตาซิลิโคนมีจุดเด่นที่สีสวยแจ่มค่ะ
ถ่ายภาพออกมางามไม่อายใคร ถ้าดูด้วยตาเปล่าแบบตัวเป็นๆ
ดอลฟี่ที่ใช้ตาซิลิโคนจะสีชัดเจนมากนะคะ
เพียงแต่ประกายอาจยังสู้ตาแก้วไม่ได้ค่ะ
Urethane eyes หรือ ตายูรีเทน
เป็นตาที่พยายามผลิตให้มีความสวยงามกว่าตาแก้ว
แต่ราคาย่อมเยาและให้สีจัดจ้านล้ำลึกกว่าค่ะ (เขาโฆษณาว่างั้น)
บริษัทที่จัดว่าเป็นตัวแม่ของวงการตายูรีเทนคือ Enchanted Doll ค่ะ
จุดขายของตายูรีเทน มีจุดเด่นที่สัจัดจ้านเหมือน Soom eyes
แต่มีประกายที่ล้ำลึกเหมือนตาแก้วค่ะ เป็นตาที่หยิบข้อดีของทั้ง Soom eyes
และตาแก้วมารวมกันเลยล่ะค่ะ
ตาแก้ว (glass eyes)
จัดเป็นตาที่แพงที่สุดค่ะ สาเหตุที่แพงก็เพราะต้องเป่าด้วยมือทีละข้าง
ดังนั้นเป็นธรรมดาที่ตาแก้วคู่หนึ่งจะไม่เท่ากันทั้งสองข้าง
(เพราะเป็นของทำมือ) ตาแก้วคุณภาพดีที่ผลิตจากเยรมันนีคู่ละ $30
ขึ้นไปเลยค่ะ แต่ถ้าคุณภาพไมค่อยดีนักจากจีนจะประมาณ $15 ปัจจุบันตาแก้วมีขายหลายบริษัทเลยค่ะ แต่บริษัทที่ขายส่งรู้สึกจะชื่อ Glibb ทำส่งให้หลายเจ้าค่ะ ราคาประมาณ $28 งามแจ่มเหลือเกิน หน้าตาเป็นแบบนี้
ส่วนตาแก้วที่ได้ชื่อว่าแพงที่สุดในโลกคือ Zoukeimura eyes
ค่ะ ผลิตโดยโซเคมุระซึ่งเป็น artist คู่บุญของบริษัท Volks แห่งญี่ปุ่น
เมื่อก่อนเขาก็ทำตาแก้วรุ่นนี้ขายค่ะ แต่ตอนหลังเลิกขายไป
จะมีแถมติดกับตุ๊กตาของ Volks ที่ซื้อแบบครบชุดเท่านั้น
ดังนั้นจึงหายากระดับเทพ! หน้าตาเป็นแบบนี้ค่ะ
คู่นี้ประมูลอยู่ใน yahoo auction japan ค่ะ ราคาประมาณ $140 ตาแก้วนอกจากให้ประกายที่สวยงามแล้ว ยังมีมิติล้ำลึกเล่นแฟลชได้สวยมากๆ เลยนะคะ
นอกจากตาเหล่านี้
ก็ยังมีตาอีกหลากหลายค่ะ เช่น Volks Metallic eyes
ซึ่งเป็นอครีลิกสะท้อนแสงเป็นสีโลหะถ่ายภาพแล้วงามนักแล, Glastic Realistic
และ Mystic eyes ซึ่งเป็นอครีดลิกตระกูลเหมือนจริงค่ะ
ขนตา (Eyelashes)
ขนตามีความสำคัญมากแม้จะเป็นตุ๊กตาผู้ชายเพราะทำให้ใบหน้าดูอ่อนโยนค่ะ จะ
ติดหรือไม่ติดก็แล้วแต่จริตความชอบนะคะ ใช้ขนตาปลอมของคนมาซอยได้เลยค่ะ
ดูมาแล้วว่าไม่ต่างกัน ติดแล้วแม้จะเป็นหนุ่มน้อยก็งามได้ค่ะ
วิกผม (wigs)
เป็นความรื่นรมย์ในการเปลี่ยนบุคลิกให้ดอลฟี่ที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งค่ะ สิ่งที่ต้องระลึกเสมอก่อนซื้อวิกคือขนาดเท่าไรและทำจากอะไร
ดอลฟี่ต่างรุ่นต่างยี่ห้อจะมีขนาดศีรษะไม่เท่ากันค่ะ
ดังนั้นตอนซื้อต้องเช็คให้แน่ว่าตุ๊กตาของเรามีรอบศีรษะเท่าไร
ถ้าเราซื้อตุ๊กตาของบริษัทนึงแต่ดันซื้อวิกจากอีกเจ้า
ยิ่งต้องวัดให้มั่นใจว่าใส่กันได้แน่ๆ ด้วยค่ะ
วัสดุที่ใช้ทำนั้นแบ่งเป็น 4 ประเภทใหญ่ๆค่ะ
1.Synthetic hair
หรือผมปลอม
ทำจากสารเคมีสังเคราะห์ซึ่งปัจจุบันสวยงามไม่ต่างจากผมจริงเลยค่ะ นิยมทำ
เป็นผมยาวตรงเพราะทิ้งตัวมีน้ำหนักและลื่นดี
ถ้าทำเป็นผมดัดมันจะแข็งและดูกระด้างๆ ไม่ค่อยนุ่มนวลเท่าไหร่
สมัยนี้มีใยสังเคราะห์ที่เป็น heat-resisting fiber ออกมาตีตลาดด้วยนะคะ
ไม่รู้ว่าต่างกันยังไง รู้แต่แพงกว่าหน่อยนึง นอกจากสวยเก๋แล้ว
วิกผมใยสังเคราะห์จะแพงหรือไม่ขึ้นกับฝีมือการเย็บและจัดทรงด้วยค่ะ
วิกจีนราคาถูกมักเย็บทื่อๆ และไม่จัดทรงมาให้ ใส่ยังไงก็ไม่สวยค่ะ
แต่ถ้าเป็นวิกเกาหลี
เขาจะเย็บอย่างพิสดารซับซ้อนเพื่อให้วิกกลายเป็นผมแสกแบบต่างๆ
และจัดทรงมาให้เรียบร้อยค่ะ ดังนั้นวิกรุ่นนี้หวีเปลี่ยนทรงไม่ได้นะคะ
มายังไงต้องอยู่อย่างงั้นเลยค่ะ
2.Fur
หรือเฟอร์วิก
เป็นวิกที่ทำจากขนสัตว์สั้นๆ อันนี้เราซื้อพรมขนสัตว์ที่เขาทำเป็นที่วาง
หน้ารถยนต์มาตัดแล้วเย็บติดหัวได้เลยนะคะ
ข้อดีคือสามารถย้อมสีหรือจัดทรงปัดไปได้ค่ะ วิกแบบนี้ราคาถูก
แต่ร่วงง่ายและพังง่ายน่าดูเหมือนกันค่ะ
3.Mohair หรือ
โมแฮร์ค่ะ เป็นเส้นใยธรรมชาติจากขนแกะ ขั้นตอนการทำยุ่งยากอย่างแรง
ต้องนำมาล้างและบรรจงยืดเป็นเส้นเย็บติดกับตาข่ายเสร็จแล้วก็ย้อม
ทำให้วิกแบบนี้มีราคาสูงมากและต้องการการเก็บรักษาที่ยุ่งยาก
แต่ข้อดีคือนุ่มกว่าวิกผมสังเคราะห์และดัดให้เป็นผมหลอดได้สวยงามเป็นธรรมชาติค่ะ
4.Human hair
หรือผมจริงซึ่งให้สัมผัสเหมือนจริงมากที่สุด ข้อเสียคือพวกนี้ผุพังได้ตามเวลา ยิ่งเก่ายิ่งกรอบ
ยิ่งแต่งด้วยสารเคมียิ่งเสียเร็วจึงไม่ค่อยนิยมกันเท่าไร
เสื้อผ้า (Outfits, dresses, cloths)
ถือเป็นส่วนที่สนุกที่สุดในการเปลี่ยนเลยค่ะ
เสื้อผ้าตุ๊กตามีหลากสไตล์หลายแบบ สิ่งที่ควรคำนึงถึงก่อนซื้อคือ ขนาดนะคะ
แม้บางครั้งเป็นรุ่นที่ใกล้เคียงกัน (เช่น DoD DOT, Luts Delf, Volks SD13)
แต่ด้วยความแตกต่างของความยาวขา, ขนาดมือเท้า, รอบเอวและสะโพก
ทำให้เราอาจไม่สามารถยัดตัวลงในเสื้อได้ค่ะ
การซื้อเสื้อที่ปลอดภัยที่สุดคือซื้อจากบริษัทนั้นๆหรือสั่งตัดซะเลยมีตั้งแต่แบบธรรมดาแบบที่ใส่ได้ในชีวิตประจำวันทั่วไป
ราคาของเสื้อผ้านั้นขึ้นกับหลายปัจจัย โดยส่วนใหญ่มักดูที่ความสวยงาม,
วัสดุ, และผู้ผลิต เป็นที่ยอมรับกันว่าเสื้อผ้าผู้หญิงสไตล์ gothic lolita
ของญี่ปุ่นนั้นเป็นเลิศในปฐพีค่ะ ในระหว่างที่เสื้อผ้าชาย เช่น
สูทหรือเครื่องแบบไปจนถึงชุดแนวแฟนตาซี ทางเกาหลีจะทำได้งามกว่า
แต่ถ้าจะเอาถูกเข้าว่าต้องฮ่องกงและจีนเลยค่ะ คุณภาพด้อยกว่า แบบบางทีลอกมา
แต่ถูกกว่ากัน 2-3 เท่าได้ หาซื้อตามอีเบย์ได้เลยนะคะ
นอกจากเสื้อผ้าแล้ว
เหล่าดอลฟี่ยังมีชุดชั้นใน ถุงเท้า ถุงมือ แว่นตา โทรศัพท์มือถือ
เกมคอมพิวเตอร์มือถือ สร้อยคอ กระเป๋า รองเท้า บุหรี่
และอีกบรรดาเฟอร์นิเจอร์ประดับกายให้เลือกสวมใส่อีกซึ่งจะเรียกว่า accessories ค่ะ บางทีมีโซฟาหรือเครื่องดนตรีสำหรับตุ๊กตาด้วย
รองเท้า (Shoes, boots)
พึงระลึกเสมอว่ารองเท้าของดอลฟี่มักจะไม่ขายคู่กับชุดค่ะ รองเท้านั้นมีราคาแพงพอๆ
กันหรืออาจจะมากกว่าชุดเนื่องจากต้องอาศัยการตัดเย็บที่ปราณีตมาก
รองเท้ามีรูปแบบเหมือนของคนเลยค่ะ
อาจมีเชือกร้อยหรือกระดุมให้ติดเพื่อความสะดวกในการใส่
แต่ถ้าเป็นรองเท้าบู้ทจะมีซิปให้ด้านหลังเพื่อให้เปิดใส่ได้ค่ะ
ก่อนซื้อเราต้องรู้เสียก่อนว่าขนาด "ด้านใน" ของรองเท้าเท่าไรเพื่อจะได้ดูว่ารองเท้าที่จะซื้อสามารถใช้สวมกับลูกของเราได้หรือเปล่าค่ะ
เป็นอย่างไรบ้างคะ สำหรับข้อมูลเกี่ยวกับ Ball Joint Doll หรือ Dollfie ข้อมูลเหล่านี้เป็นแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้นนะคะ ดอลฟี่ยังมีข้อมูลอีกมาก เช่น รุ่นของดอลฟี่ ขนาดต่างๆ บริษัทที่ผลิต และข้อมูลอื่นอีกมากมายเลยค่ะ ไว้วันหลังมิ้นจะเอาข้อมูลของน้องดอลฟี่มาฝากอีกนะคะ ส่วนวันนี้ขอปิดท้ายด้วยรูปน้องดอลฟี่น่ารักๆคะ ขอบคุณที่ติดตามนะคะ^^
เป็นอย่างไรบ้างคะ สำหรับข้อมูลเกี่ยวกับ Ball Joint Doll หรือ Dollfie ข้อมูลเหล่านี้เป็นแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้นนะคะ ดอลฟี่ยังมีข้อมูลอีกมาก เช่น รุ่นของดอลฟี่ ขนาดต่างๆ บริษัทที่ผลิต และข้อมูลอื่นอีกมากมายเลยค่ะ ไว้วันหลังมิ้นจะเอาข้อมูลของน้องดอลฟี่มาฝากอีกนะคะ ส่วนวันนี้ขอปิดท้ายด้วยรูปน้องดอลฟี่น่ารักๆคะ ขอบคุณที่ติดตามนะคะ^^
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
0 ความคิดเห็น (+add yours?)
แสดงความคิดเห็น